กรณีรังแกเด็ก8ขวบ : ไทยมีการรังแกกันในโรงเรียนสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก - Sabay like

Hot

Post Top Ad

Friday, October 12, 2018

กรณีรังแกเด็ก8ขวบ : ไทยมีการรังแกกันในโรงเรียนสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก

Photofusion/UIG via Getty Images

กรณีรังแกเด็ก8ขวบ : ไทยมีการรังแกกันในโรงเรียนสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก

เหตุการณ์ที่เด็กหญิงวัย 8 ขวบถูกเพื่อนรุ่นพี่ในโรงเรียนเดียวกันใน จ. พะเยา รุมแกล้ง ทำร้ายร่างกาย และมีวิดีโอเผยแพร่ออกมาก่อให้เกิดความกังวลและตามมาด้วยเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับเรื่องการแกล้งกันในโรงเรียน
จากการค้นคว้าข้อมูลของบีบีซีไทยทำให้เห็นว่าการแกล้งกันในโรงเรียนนั้นเป็นปัญหาใหญ่และส่งผลต่อบุคคลที่ถูกกระทำและผู้กระทำอย่างลึกซึ้ง และกลุ่มที่เป็นเหยื่อมักหนีไม่พ้นเด็กที่มีความแตกต่าง อย่างเช่นเด็กพิเศษหรือเด็กที่มีพัฒนาการช้า
ไทยติดอันดับสองของโลกของการแกล้งกันในโรงเรียน
ข้อมูลจากกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ที่ออกมาเมื่อต้นปีนี้พบว่า ผลการสำรวจในโครงการติดตามสภาวการณ์เด็กและเยาวชนรายจังหวัดเมื่อปี 2560 พบว่า มีเด็กถูกรังแกในสถานศึกษาปีละประมาณ 6 แสนคน ซึ่งทำให้ปัจจุบันประเทศไทยอยู่ในอันดับ 2 ของโลก ที่มีสัดส่วนนักเรียนถูกรังแกจากเพื่อนนักเรียนด้วยกันสูงถึงร้อยละ 40 รองจากญี่ปุ่นเท่านั้น
ตามการเก็บข้อมูลพบว่าเด็กกลุ่มที่มีครอบครัวที่ใช้ความรุนแรง หรือเด็กที่ป่วยโรคทางจิตเวช มักพบว่าเป็นเด็กกลุ่มที่เป็นผู้รังแก ส่วนเด็กที่ตกเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงถูกรังแกสูงก็คือ เด็กที่มีปัญหาพัฒนาการช้า เด็กพิการ กลุ่มที่เป็นเด็กพิเศษ หรือกลุ่มเพศทางเลือก
เหยื่อและผู้กระทำ
กรณีรังแกเด็ก8ขวบ
Photofusion/UIG via Getty Images
“ฉันถูกรังแก”
“เด็กที่เป็นเด็กพิเศษ เช่น ออทิสติก อาจจะถูกมองว่าน่าหมั่นไส้ อยู่ในโลกคนเดียว พอใจจะทำอะไรซ้ำ ๆ แกล้งแล้ว “ขึ้น” เพราะเวลาถูกทำอะไรก็จะกรี๊ดขึ้นมาได้” กิดานันท์ งามดีวิไลศักดิ์ หรือ แม่ก้อย ซึ่งมีลูกชายเป็นออทิสติก รวมทั้งเป็นบล็อกเกอร์จากเพจ “การเดินทางที่อ่อนไหวกับเด็กชายออทิสติก”กล่าวกับบีบีซีไทย
เมื่อถามว่าลูกชายของเธอเคยถูกรังแกในโรงเรียนหรือไม่ “แม่ก้อย” ตอบว่าตัวเด็กคนหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นเด็กธรรมดาหรือเด็กพิเศษก็อาจจะเป็นไปได้ทั้งเป็นเหยื่อหรือเป็นผู้กระทำ โดยเธอยกตัวอย่างลูกชายของเธอเองทั้งในสองแง่
“ลูกเคยถูกรังแกและรังแกคนอื่น เด็กพิเศษก็เป็นฝ่ายรังแกคนอื่นเหมือนกัน แต่เป็นไปด้วยความไม่รู้ว่าแบบนี้คือรังแก เพราะเขามองโลกคนละแบบกับคนอื่น ๆ ”
กิดานันท์เล่าว่า โรงเรียนเคยเรียกเข้าไปแจ้งเหตุลูกชายของเธอแกล้งเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง
เหตุการณ์ก็คือทั้งสองคนต้องมาวิ่งแข่งกัน ขณะที่วิ่ง เด็กผู้หญิงคนนั้นแซงหน้าลูกชายเธอไป ทำให้ลูกชายเอื้อมมือไปดึงเด็กผู้หญิงคนนั้นไม่ให้เข้าเส้นชัยก่อน เมื่อสอบถามลูกชายว่าทำไมต้องแกล้งเพื่อน “ลูกตอบว่าอยากวิ่งไปพร้อม ๆ กัน เพราะออกวิ่งมาด้วยกัน ไม่ควรจะแซงหน้ากันไป คือเขาไม่คิดว่าแบบนั้นคือการแกล้งเพื่อน”
ส่วนกรณีที่ถูกรังแก ส่วนใหญ่จะเป็นการรังแกด้วยคำพูด เธอเล่ามีอยู่ครั้งหนึ่งเดินตามลูกชายเข้าไปในโรงเรียน มีเพื่อนรุ่นเดียวกันกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาหาลูกแล้วบอกว่าให้ลูกชายเธอพูดว่า “ฉันเป็นคนโง่เง่า” ซึ่งลูกชายก็พูดตามเพราะไม่เข้าใจความมุ่งหมายของเพื่อน เมื่อเพื่อนหัวเราะเพราะขบขัน ลูกชายเธอก็ตีความว่าเพื่อนชอบใจก็ยิ่งพูดซ้ำ ๆ เข้าไปยิ่งขึ้น และก็ยิ่งกลายเป็นตัวตลกในสายตาเพื่อน
“ตอนนั้นลูกก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับการแกล้งเช่นนี้ แต่เมื่อโตขึ้น เข้าใจอะไรได้มากขึ้น ก็ทำให้ลูกเสียใจมาก” แม่ก้อยเล่า
แม่ก้อยคิดว่าโรงเรียนและครูน่าจะมีบทบาทที่ช่วยให้เด็กที่เป็นเด็กพิเศษและเพื่อนที่เป็นเด็กธรรมดาให้อยู่ร่วมกันได้ ซึ่งเธอตั้งข้อสังเกตว่าหากโรงเรียนและครูจะมีบทบาทนี้ได้ ก็ต้องมีองค์ความรู้เกี่ยวกับเด็กพิเศษหรือเด็กที่ไม่เหมือนคนอื่นให้มากกว่าเดิม รวมทั้งสังคมในวงกว้างด้วย
การจัดการกับกรณีที่พะเยา
เด็กนักเรียน
CHRISTOPHE ARCHAMBAULT/AFP/Getty Image
นายวุฒิชัย เสาวโกมุท รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา กล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ (11 ต.ค.) ว่าเด็กที่ทั้งถูกรังแก และเป็นฝ่ายรังแกก็จะได้รับการเยียวยาทั้งสองฝ่าย เด็กหญิงที่ถูกรังแกถูกส่งไปตรวจทั้งร่างกายและจิตใจที่โรงพยาบาลแล้ว
รอง ผวจ.ระบุว่า ในทางด้านร่างกาย เด็กหญิงวัย 8 ขวบก็ไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรง แต่ก็มีความบอบช้ำ ส่วนทางด้านจิตใจนั้นผลการตรวจผลกระทบยังไม่เสร็จสิ้น แต่เขาก็ยอมรับว่าคงต้องใช้เวลาเยียวยานานสักระยะหนึ่ง
นอกจากนี้ก็ได้มีการสั่งโรงเรียนทั้ง จ. พะเยา หามาตรการป้องกันเพื่อมิให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดซ้ำขึ้นอีก และจัดให้มีกิจกรรมต่าง ๆ อย่างเช่นให้เด็กมีความรักสามัคคี มีจิตอาสา อย่างเช่นการเข้าค่าย หรืออื่น ๆ
ในขณะที่นักการศึกษาคนหนึ่งในที่ประชุมกล่าวขอร้องว่า อยากจะให้สังคมปฏิบัติต่อเด็กกลุ่มนี้ที่ทั้งโดนรังแก และเป็นฝ่ายถูกรังแก แล้วถูกสังคมโซเชียลมีเดียประณามอย่างรุนแรง เหมือนกรณีเด็กทีมหมูป่า ก็คือเว้นระยะห่าง ไม่เข้าไปละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัว หรือย้ำบาดแผลและวิพากษ์วิจารณ์อันเป็นการซ้ำเติมเด็กทั้งสองกลุ่มเพื่อให้สามารถเยียวยาเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การรังแกในโรงเรียนปลูกฝังความรุนแรงในเด็ก
กรมสุขภาพจิตยังได้ระบุด้วยว่า หากว่าไม่มีการจัดการการรังแกกันในโรงเรียนอย่างเหมาะสม อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการปลูกฝังความรุนแรงในเด็ก เพราะการทำร้ายกันนั้นมีผลกระทบต่อเด็กทั้งสองฝ่าย ทั้งด้านอารมณ์ ร่างกาย ไปจนถึงคุณภาพชีวิตในระยะยาว
เด็กที่ถูกรังแกมักเครียด ซึมเศร้า มีปัญหาการเข้าสังคมจนโต หากถูกกดดันรุนแรงหรือเรื้อรัง จะนำไปสู่การทำร้ายคนอื่นเพื่อแก้แค้น หรือทำร้ายตนเอง รุนแรงถึงฆ่าตัวตาย ขณะที่ผู้ที่รังแกคนอื่นจนเคยชินก็อาจก่อเป็นบุคลิกภาพก้าวร้าว จนอาจใช้ความรุนแรงแก้ปัญหาเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่
ปัญหาในระดับโลก
ถูกแกล้ง
Photofusion/UIG via Getty Images
ในรายงานขององค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติหรือยูเนสโก (UNESCO) ปี 2017 ระบุว่า ปีหนึ่ง ๆ จะมีเด็กหญิงและชายเป็นเหยื่อของความรุนแรงที่เกิดขึ้นในโรงเรียนหลายล้านคนต่อปี การสำรวจในประเทศที่มีรายได้ปานกลางและต่ำ 19 ประเทศพบว่า หนึ่งในสามของเด็กอายุระหว่าง 11-13 ปี จะอยู่ในวังวนของการรังแกกันในโรงเรียน
อิรินา โบโกวา อดีตเลขาธิการของยูเนสโกกล่าวว่า ความรุนแรงและการแกล้งกันในโรงเรียนเป็นอุปสรรคใหญ่ของสิทธิในการได้รับการศึกษา เพราะจะส่งผลร้ายต่อความสามารถต่อการเรียนรู้ของเด็กนักเรียน และขัดขวางมิให้พัฒนาการของเด็กก้าวหน้าไปในระดับที่น่าพอใจ
ยูเนสโกยังได้กล่าวถึงการสอบถามความคิดเห็นของเด็กวัยเรียนใน 18 ประเทศทั่วโลก ซึ่งมีผู้ที่เข้าร่วมตอบแบบสอบถาม 100,000 คนนั้น ราว 3 ใน 4 ของผู้ตอบแบบสอบถามบอกว่าถูกรังแกเพราะพวกเขาแตกต่างอย่าง เช่น แตกต่างทางลักษณะภายนอก หรือสุขภาพกายและจิตใจ , แตกต่างเพราะเพศสภาพหรือการเลือกเพศที่ไม่ใช่เพศตั้งแต่เกิด รวมทั้งแตกต่างในเชื้อชาติ วัฒนธรรมและศาสนาที่นับถือ

No comments:

Post a Comment

สนใจลงโฆษณาโปรโมชั่นคลิ้กที่นี้ AGZ

 

แพ็คเกจโฆษณา ข่าวท้องถิ้น + Facebook + Google

              รายการ                     อัตราโฆษณา   ข่าวท้องถิ้น     Facebook   Google

โปรโมทโฆษณาเหมา3ช่องทาง         6300           1เดือน           1เดือน      1เดือน

สิ่งที่จะได้รับ

  • ตำแหน่งโฆษณาบน www.77jangwad.com ตามหมวดสินค้าที่ลูกค้าเลือก
  • โฆษณาบน Facebook แบบ Click to website ลักษณะโปรโมทสินค้า หรือร้านที่ลูกค้าได้ลงโฆษณาไว้ กับทาง www.77jangwad.com
    (สามารถเลือกโปรโมทได้)
  • โฆษณาบน Google Adwords จะแสดงหน้า google search (search network only) โดยแสดงตามคำเสิร์ซ หรือคีย์เวิร์ดที่ เรา หรือลูกค้า กำหนดขึ้น เราตั้งงบโฆษณาได้ต่อวัน กำหนดเวลาแสดงโฆษณา เสียค่าโฆษณาเมื่อมีคนคลิก
    (สามารถเลือกโปรโมทได้)

สิ่งที่ลูกค้าต้องเตรียมให้เรา

  • หัวข้อโฆษณา และ เนื้อหา ข้อมูล หรือข้อความโฆษณา
  • รูปภาพสินค้า สำหรับทำแบนเนอร์และ ในหน้ารายละเอียดโฆษณา
  • ข้อมูลสำหรับผู้ขาย ชื่อ เบอร์โทร อีเมล์ ที่ให้ลูกค้าติดต่อซื้อขายได้

 ติดต่อลงโฆษณา Line: @kcs7258v


สนใจลงโฆษณาโปรโมชั่นคลิ้กที่นี้ AGZ

Post Top Ad