พระถือปืน สึกแล้ว โร่แจ้งปอท. ยันแค่ถือถ่ายรูปเล่น ลุยเอาผิดคนโพสต์หมิ่น

พระถือปืน สึกแล้ว โร่แจ้งปอท. ยันแค่ถือถ่ายรูปเล่น ลุยเอาผิดคนโพสต์หมิ่น

พระถือปืน  /  เมื่อวันที่ 6 พ.ย. ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นายกำธร มงคลรัตนชาติ หรือ โกเต็ก อายุ 54 ปี พร้อม นางสุจิตรา มงคลรัตนชาติ อายุ 56 ปี ภรรยา ชาว จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าของธุรกิจบังกะโล ซี การ์เด้นท์ รีสอร์ท

เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ณัฐไชยเฉลิม วงศ์ใหญ่ รองสว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. เพื่อแจ้งความเอาผิดกับบุคคลที่นำภาพขณะที่ตนได้บวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ กำลังถือปืนลูกซองยาว อาวุธปืนลูกโม่ และดาบ เขียนรายงานว่า “ออกพรรษาก็ฉาวเลย” “พระสายบู๊ โชว์กร่างถือปืน ขนาบสีกา” ก่อนจะมีสื่อออนไลน์อื่นๆ นำไปเสนอต่อกันทั่วทั้งโลกโซเชียล ซึ่งเป็นการแสดงกิริยาที่ไม่เหมาะสมกับสมณเพศ

นายกำธร กล่าวว่า ตนเองมีปัญหาด้านสุขภาพเส้นเลือดหัวใจตีบ เมื่อรักษาผ่าตัดทำบอลลูนเมื่อรักษาแล้วเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ จึงตั้งใจบวชพระอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร โดยไปบวชพระที่ วัดพระธาตุอินทร์แขวน ประเทศพม่า เมื่อเดือนส.ค. ได้ฉายาว่า กุศละภิกขุ

อยู่พม่าได้ 1 สัปดาห์ จึงขออนุญาตพระอาจารย์เจ้าอาวาส กลับมาประเทศไทย ซึ่งช่วงที่บวชอยู่ระหว่างพรรษาพอดี จึงคิดว่าจะบวชให้ได้พรรษา สอบถามพระอาจารย์ว่าครบกำหนดจะสึกที่ประเทศไทยได้ จึงเดินทางกลับมาจำวัดโพธิ์ ต.บ้านใต้ อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี

นายกำธร เล่าต่อ พอวันที่ 17 ต.ค. แพทย์ รพ.รามาธิบดี นัดให้มาตรวจสุขภาพ ดูผลที่ผ่าตัดเส้นเลือดหัวใจ พบว่าเป็นปกติดี ตนซึ่งขณะนั้นยังอยู่ในสมณเพศ มาถึงกทม.แล้วอยากจะแวะไปหาเพื่อนๆ สมัยเรียนมัธยมศึกษา ที่ จ.อ่างทอง จึงเหมาแท๊กซี่ให้ไปส่ง

พอรถขับผ่านร้านอาหารที่เคยรับประทานกับเพื่อนๆ จำได้เลยให้แท๊กซี่จอดส่งลงที่ร้าน ก่อนจะถ่ายรูปชูนิ้ว ส่งเข้าไปในไลน์กลุ่มชื่อ “เพื่อนรัก ตันติ” จะมีเพื่อนนักเรียนสมัยเรียน ม.ศ.3 โรงเรียนตันติวิทยาภูมิเป็นสมาชิกในกลุ่มนี้ แจ้งว่าตนซึ่งเป็นพระสงฆ์ในเวลานั้นเดินทางมาถึง อ.วิเศษไชยชาญ อ่างทองแล้วนะ ขอให้เพื่อนมารับด้วย

ต่อมาเพื่อนสนิทชื่อชูศักดิ์ (สงวนนามสกุล) ขับรถยนต์มารับตนไปบ้าน เมื่อถึงบ้านก็นิมนต์เข้าบ้าน ไปนั่งพักก่อน พอดีก่อนที่เขาจะออกไปรับ กำลังเอาปืนลูกซองยาว ปืนสั้น ออกมาทำความสะอาดใส่ซองผ้าไว้ยังไม่ทันเก็บเข้าตู้

ตนเห็นเข้าจึงร้องถามว่าปืนอะไร เขาก็เอาส่งมาให้ดู ตอนนั้นมีเพื่อนๆ นักเรียนสมัย ม.ศ.3 ทะยอยมากัน มีเพื่อนผู้หญิงชื่อรัตน์ใจ ซึ่งเป็นญาติแซ่เดียวกันกับตนที่ใช้ก่อนเปลี่ยนนามสกุล มากับสามีชื่อสำราญมากราบตนที่มีบุญได้บวชพระ

สามีรัตน์ใจ จึงใช้มือถือถ่ายรูปตนถือปืนดังกล่าว และรูปรัตน์ใจกราบตน ก่อนที่รัตน์ใจจะเอารูปดังกล่าวไปโพสต์เข้าในไลน์กลุ่มเพื่อนๆ ให้เพื่อนๆดูขำๆสนุกสนานกัน ไม่คิดว่าจะเป็นประเด็นเป็นเรื่องในโลกโซเชียลแบบนี้เลย

นายกำธร เล่าต่อก่อนหน้านี้ตนเคยมีปัญหาขัดแย้งกันเพื่อนอดีตนักเรียนในไลน์กลุ่มดังกล่าว ได้ประกาศว่าจะไม่ไปร่วมงานเลี้ยงรุ่นประจำปีนี้ ทำให้คนอื่นๆไม่ไปร่วมงานเลี้ยงด้วย จนงานรุ่นประจำปีของ ม.ศ.3 รุ่นสุดท้ายล่ม คิดว่าน่าจะเป็นสาเหตุให้เพื่อนบางคนโกรธแค้นตน จึงเอารูปตนถือปืนในขณะเป็นพระสงฆ์ไปโพสต์นอกกลุ่ม จนภาพนี้แพร่กระจายไปถึงมือนักข่าว

นอกจากภาพที่ตนตอนเป็นพระถือปืนแล้ว ยังมีภาพของไวน์พร้อมแก้วไวน์ มีการนำภาพนี้มาประกอบในข่าวด้วย ซึ่งตนทราบภายหลังจากเพื่อนที่ส่งข้อมูลมาให้ว่าภาพนี้ถ่ายที่ จ.ชลบุรี เจ้าของภาพเป็นตำรวจที่ ภ.จว.ชลบุรี ยินดีมาเป็นพยานให้ตน

ตนมาทราบเรื่องเมื่อเพื่อนที่รู้จักหลายคน แจ้งมาว่ามีรูปตนในสมณเพศไปออกสื่อ ว่าเป็นพระสายบู๊ถือปืน ขนาบข้างด้วยสีกา แถมมีขวดไวน์แก้วไวน์ด้วย ทำให้ตนเสียหายและเกรงว่าพระพุทธศาสนาจะมัวหมอง จึงตัดสินใจลาสิขาบท เมื่อวันที่ 26 ต.ค. จากนั้นวันรุ่งขึ้นได้ไปแจ้งความต่อ ร.ต.อ.กฤษฎา ทองสกุล รอง สว.(สอบสวน) สภ.พะงัน ภ.จว.สุราษฎร์ธานี แสดงตัวเพื่อความบริสุทธิ์ใจว่าเป็นบุคคลในภาพในข่าว ที่ไม่เป็นความจริง

ด้านพ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผกก.3 บก.ปอท. กล่าวว่า เบื้องต้นพบว่าผู้เสียหายแจ้งความ สภ.ท้องที่มาแล้ว ได้สั่งการให้ ร.ต.อ.ประมุข ภิรมย์เจียว รอง สว.กก.3 บก.ปอท. รับผิดชอบงานสืบสวน มาช่วยตรวจสอบการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ของข่าวนี้

เบื้องต้นพบว่ามีบุคคลใช้บัญชีเฟซบุ๊กส่วนตัวรายหนึ่ง พักอยู่ในจังหวัดอ่างทองเป็นคนโพสต์ เป็นผู้เผยแพร่ข้อมูลดังกล่าว ซึ่งการกระทำผิดดังกล่าวเป็นความผิดกฎหมายอาญาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา
จากนั้นให้พนักงานสอบสวนรับแจ้งความ แล้วจะได้ประสานกับพนักงานสอบสวน สภ.พะงัน ภ.จว.สุราษฎร์ธานี รับไปดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาทต่อไป

ท้ายสุดนายกำธร ฝากเตือนสำนักข่าวต่างๆ ที่แชร์ข้อมูลข่าวอันเป็นเท็จว่า อย่าแชร์กันต่อไป เพราะนอกจากตัวเองจะเสียหายแล้ว วงการพระพุทธศาสนาก็พลอยมัวหมองไปด้วย ฝากกราบขอขมาในสิ่งที่ผิดพลาด ที่ไปถือปืนให้เพื่อนถ่ายรูป ซึ่งไม่เหมาะสมในสมณเพศพระภิกษุสงฆ์ แต่คนที่เข้าใจผิดเมื่อทราบข้อเท็จจริงจากข่าวนี้แล้ว ขอร้องให้แก้ไขด้วย หากใครยังแชร์ต่อก็จำเป็นจะต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

นายกำธรหรือ โกเต็ก ยังบอกอีกว่า ตนช่วยเหลือสังคมในเกาะพะงันมากมายในเรื่องการทำบุญ แจกข้าวสารทุกปี งานวัดก็ช่วยบูรณะตลอดมา คนพะงันรู้จักตนเป็นอย่างดี เจ้าอาวาสท่านก็เสียดายที่ต้องรีบสึก ถึงอย่างไรตนตั้งใจจะหาโอกาสไปช่วยวัดตลอดไป