กลายเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่อง สำหรับการเรียนทางไกล หรือเรียนออนไลน์ในช่วงหยุดยาวนี้ โดยส่วนใหญ่เด็กนักเรียนยากจนมีมากในประเทศไทย และที่บ้านสัญญาณอินเตอร์เน็ตอาจจะยังเข้าไม่ถึง หรืออยู่ในบริเวณห่างไกลกว่าที่จะมีสัญญาณเข้าถึง ผู้ปกครองบางรายต่างดิ้นรนเพื่อให้ลูกได้เรียนอย่างใครเขา บวกกับสถานการณ์ปัจจุบัน หลายๆคนก็แย่ ตกงาน ขาดรายได้ แต่ลูกก็ต้องเรียนออนไลน์ ทำให้สถานการณ์ในบ้านมันแย่ขึ้น แล้วจะเอาเงินที่ไหนไปซื้ออุปกรณ์
วันนี้ทางทีมงานได้นำเรื่องราวดีดีมาฝากผู้ปกครองทุกคนกัน สำหรับบ้านไหนที่ไม่มีกำลังซื้อจริงๆ ไม่ต้องกังวัลนะคะ เพราะการเรียนออนไลน์เป็นการเรียนเสริมในช่วงนี้เท่านั้น เพราะการเรียนของเด็กครบหลักสูตรคือการเรียนโรงเรียน
ทางเฟซบุ๊ค “กฤษดา จิตอาสา” ครูหนุ่มผู้โพต์ได้เล่าถึงเหตุการณ์หลังจากที่เขาไปเจอพ่อแม่ลูกกำลังไปซื้อโทรศัพท์ให้ลูกเพื่อเรียนทางไกล พร้อมข้อคิดดีดี ระบุอย่างละเอียดว่า
เรากำลังเป็นเหยื่อ ..
ผมเลือกซื้อของที่เซเว่น เห็นผู้ปกครองกับเด็กคนหนึ่ง เดินมาที่บูธขายโทรศัพท์ ถามพนักงานว่ามีเครื่องราคาไม่เกิน 3000 บาทมั้ย จะให้ลูกไว้เรียนออนไลน์ ผมยืนฟังผู้ปกครองกับพนักงานพูดคุยกันสักพัก จึงเดินไปชำระค่าสินค้า แล้วเดินออกมาที่รถ
ผมยืนคิดอยู่สักพักใหญ่ ตาก็มองผ่านกระจกดูพนักงานกับผู้ปกครองตกลงกันอยู่ ผมเลยตัดสินใจเข้าไปอีกครั้ง เดินไปถามผู้ปกครองว่า เด็กเรียนอยู่ชั้นไหน ผมแนะนำตัวว่า เป็นครู แล้วอธิบายว่า “.. การเรียนออนไลน์เป็นแค่การทดลองในเดือนมิถุนายน วันที่ 1 ก.ค.ก็เปิดเรียนตามปกติ เรียนจนครบหลักสูตร การเรียนออนไลน์มีหลายวิธี ไม่จำเป็นต้องใช้โทรศัพท์ก็ได้ หรือหากไม่มีอะไรเลย ก็รอเรียนตามปกติ .. ผู้ปกครองพยักหน้าเข้าใจ ผมหันไปบอกเด็กว่า “ ให้พ่อเอาเงิน 3000 บาทไปทำอย่างอื่นดีกว่ามั้ย “ เด็กพยักหน้า ครับครู .. ผู้ปกครองจึงจูงมือลูกออกจากร้าน โดยมีพนักงานมองผมแบบเคืองๆนิดนึง
#เรากำลังตกเป็นเหยื่อ เหยื่อของความไม่รู้ ศธ.เขต โรงเรียน ผอ.ครู ผู้ปกครองและเด็ก เรากำลังเป็นเหยื่อ โดยมีเด็กได้ผลประโยชน์แอบแฝง แค่เดือนมิถุนายนเดือนเดียว ผู้ปกครองต้องลงทุนในสิ่งที่ตัวเองจะได้รับอยู่แล้ว
ผมเลือกซื้อของที่เซเว่น เห็นผู้ปกครองกับเด็กคนหนึ่ง เดินมาที่บูธขายโทรศัพท์ ถามพนักงานว่ามีเครื่องราคาไม่เกิน 3000 บาทมั้ย จะให้ลูกไว้เรียนออนไลน์ ผมยืนฟังผู้ปกครองกับพนักงานพูดคุยกันสักพัก จึงเดินไปชำระค่าสินค้า แล้วเดินออกมาที่รถ
ผมยืนคิดอยู่สักพักใหญ่ ตาก็มองผ่านกระจกดูพนักงานกับผู้ปกครองตกลงกันอยู่ ผมเลยตัดสินใจเข้าไปอีกครั้ง เดินไปถามผู้ปกครองว่า เด็กเรียนอยู่ชั้นไหน ผมแนะนำตัวว่า เป็นครู แล้วอธิบายว่า “.. การเรียนออนไลน์เป็นแค่การทดลองในเดือนมิถุนายน วันที่ 1 ก.ค.ก็เปิดเรียนตามปกติ เรียนจนครบหลักสูตร การเรียนออนไลน์มีหลายวิธี ไม่จำเป็นต้องใช้โทรศัพท์ก็ได้ หรือหากไม่มีอะไรเลย ก็รอเรียนตามปกติ .. ผู้ปกครองพยักหน้าเข้าใจ ผมหันไปบอกเด็กว่า “ ให้พ่อเอาเงิน 3000 บาทไปทำอย่างอื่นดีกว่ามั้ย “ เด็กพยักหน้า ครับครู .. ผู้ปกครองจึงจูงมือลูกออกจากร้าน โดยมีพนักงานมองผมแบบเคืองๆนิดนึง
#เรากำลังตกเป็นเหยื่อ เหยื่อของความไม่รู้ ศธ.เขต โรงเรียน ผอ.ครู ผู้ปกครองและเด็ก เรากำลังเป็นเหยื่อ โดยมีเด็กได้ผลประโยชน์แอบแฝง แค่เดือนมิถุนายนเดือนเดียว ผู้ปกครองต้องลงทุนในสิ่งที่ตัวเองจะได้รับอยู่แล้ว
คิดดู ในเซเว่นเครื่อง 3000 จริงๆแล้วมันพ่วงค่าเน็ตไปอีก 12 เดือน เดือนละ 4-500 บาท ถามว่ามากมั้ย ผมตอบเลยว่า “ มาก “ ไหนจะค่าซ่อมค่าอะไรอีกจิปาถะ มันคุ้มแล้วหรือกับการอดทนอีกแค่เดือนเดียว ดีกว่าจะมารับผิดชอบไปอีก 12 เดือน
เรากำลังเป็นเหยื่อครับ ตราบใดที่นโยบายไม่มีความชัดเจนให้ผู้ปกครอง
#เราจะกลายเป็นแพะรับบาปในอนาคต
#หากท่านใดเห็นด้วยโปรดแชร์ให้ผู้ที่กำลังจะตกเป็นเหยื่อรายต่อไป
ขอบคุณเรื่องราว : กฤษดา จิตอาสา , Wirat Sawangarom
No comments:
Post a Comment