ส่ง”อรินทราช”ลุย-ฮึ่มจับตาย ล่าพันศักดิ์มือฆ่าเสี่ยปั๊มสระแก้ว

ส่วน”เฮียท้ง”ที่พัวพัน ตร.สรุปจมน้ำดับเอง

นายประชา วรทัด และนางปาลิดา วรทัด

ระดม “อรินทราช” ล่าตัว “พันศักดิ์” อดีตตร.จอมอุ้มฆ่าและเมีย ผู้ต้องหาฆ่าเสี่ยปั๊มน้ำมันที่สระแก้ว พร้อมประสานตม.ปิดกั้นตลอดแนวชายแดน จนท.ลั่นยุทธการขั้นเด็ดขาดเตรียมพร้อม ไม่ยอมให้อดีตตำรวจฉาวได้ลั่นไกก่อน ส่วน “เสี่ยท้ง” ผู้ต้องสงสัยจ้างวานที่จมน้ำเสียชีวิตในที่ดินอดีตลูกน้องคนสนิทที่ จ.อำนาจเจริญ ผลชันสูตรออกแล้ว ญาติไม่ติดใจขอนำศพกลับไปประกอบพิธีที่บ้านเกิด

จากกรณีคนร้ายสวมผ้าคลุมหัวใช้อาวุธปืนประกบยิงนายประชา วรทัด อายุ 52 ปี เจ้าของปั๊มน้ำมันศรีสุวรรณรุ่งเรือง อ.เมือง จ.สระแก้ว เสียชีวิตภายในปั๊มน้ำมันของตัวเอง ส่วนนางปาลิดา วรทัด อายุ 49 ปี ภรรยา ถูกกระสุนปืนเข้าที่แขน แผ่นหลังได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยพล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. บินด่วนมาสั่งการด้วยตนเอง คาดปมซื้อขายที่ดิน 5 ล้านบาท ล่าสุดผู้ต้องสงสัยในการ จ้างวาน คือนายดำรงฤทธิ์ หรือเสี่ยท้ง กิตติวราภรณ์ ได้จมน้ำ เสียชีวิต ที่อำนาจเจริญ และตำรวจออกหมายจับนายพันศักดิ์ มงคลศิลป์ อดีตนายตำรวจจอมอุ้มฆ่า และภรรยาข้อหาร่วมฆ่านายประชา ตามข่าวที่เสนอไปแล้ว

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 6 ต.ค. พ.ต.อ.ภิรมย์ จันทราภิรมย์ ผกก.สภ.เมืองสระแก้ว เปิดเผยว่า พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ซึ่งติดภารกิจราชการที่กรุงเทพฯ กำชับให้เร่งติดตามจับกุมตัวนายพันศักดิ์ และนางธนพร สุขโขจัย อายุ 50 ปี ภรรยา พร้อมระบุว่า แบ่งทีมตำรวจออกเป็นหลายชุด เพื่อหาตัวผู้ต้องหาทั้งสอง

“เจ้าหน้าที่ไม่ประมาทกับคนร้ายรายนี้ เพราะเป็นบุคคลอันตรายที่เคยก่อเหตุฆ่าคนมาหลายคดี และชุดสืบสวนชุดไหนพบเจอคนร้ายให้ใช้ความระมัดระวังตัวด้วย และเราคงไม่ให้พันศักดิ์ยิงก่อนแน่นอน ซึ่งเรามียุทธการขั้นเด็ดขาดเตรียมพร้อมอยู่แล้ว และผู้บังคับบัญชาระดับสูงได้จัดกำลังหน่วย อรินทราชมาช่วยติดตามด้วย จากการตรวจสอบประวัตินายพันศักดิ์ เมื่อครั้งที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้จะไม่ขัดขืนหรือต่อสู้ แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ประมาทแน่นอน และเชื่อได้ว่านายพันศักดิ์จะยังอยู่ในประเทศไทย โดยทางภาค 2 ได้สั่งการด่วน ตามด่าน ตม.ให้ตรวจเข้มตามแนวชายแดนและวางกำลังป้องกันการหลบหนีออกนอกประเทศแม้กระทั่งตามเส้นทางธรรมชาติด้วย” ผกก.สภ.เมืองสระแก้ว กล่าว

พ.ต.อ.ภิรมย์กล่าวว่า ในส่วนการเสียชีวิตของนายดำรงฤทธิ์ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยที่มีพยานบุคคล พยานหลักฐานว่าเข้าไปมีส่วนพัวพันเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับการสั่งตายนายประชาและภรรยา เจ้าหน้าที่ดำเนินการขอสำนวนการชันสูตรศพว่าถูกทำร้ายหรือฆ่าตัวตายเอง เพื่อนำมาประกอบสำนวนการสอบสวน

หลังจากก่อนหน้าได้สอบสวนนายดำรงฤทธิ์ไปตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. หลังเกิดเหตุเพียง 1 วัน ที่บ้านพักซึ่งอยู่ติดที่เกิดเหตุ และพบว่าวันที่ 2 ต.ค. นายดำรงฤทธิ์หายออกจากบ้านไป และไปเสียชีวิตที่ อ.ลืออำนาจ จ.อำนาจเจริญ ส่วนตัวบุคคลที่นำพาตัวนายดำรงฤทธิ์ไปส่งหรือพยานอื่นตำรวจรู้ตัวหมดแล้วอยู่ระหว่างการทำงานของตำรวจ ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยได้

วันเดียวกัน พ.ต.อ.ชัชนันต์ พรบุตร ผกก.สภ.ลืออำนาจ เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำนายอนันต์ นิลมาลี อายุ 51 ปี ลูกน้องเก่าคนสนิทของนายดำรงฤทธิ์ และเป็นเจ้าของที่ดินแปลงที่นายดำรงฤทธิ์จมน้ำเสียชีวิตไม่พบพิรุธแต่อย่างใด นายอนันต์ให้การว่า นายดำรงฤทธิ์ให้ลูกน้องที่ จ.สระแก้วขับรถมาส่งที่บ้านของนายอนันต์เมื่อวันที่ 2 ต.ค.

โดยนายดำรงฤทธิ์มาเพียงลำพังมีเสื้อผ้าชุดเดียว ไม่มีทรัพย์สินอะไรติดตัวมาด้วย กระทั่งวันก่อเหตุให้พาไปนั่งเล่นริมสระน้ำที่เกิดเหตุ โดยอ้างว่าภายในบ้านอากาศร้อน จากนั้นนายอนันต์ขับรถออกไปซื้ออาหารเที่ยงให้นายดำรงฤทธิ์รับประทาน แต่เมื่อกลับมาถึงพบว่าจมน้ำเสียชีวิตแล้ว เบื้องต้นผลชันสูตรศพจากแพทย์นิติเวช ร.พ.สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบล ราชธานี ลงความเห็นสาเหตุการเสียชีวิต ว่าเกิดจากการขาดอากาศหายใจจากการจมน้ำ และญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต จึงมอบศพให้กลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่ จ.สระแก้ว