FootNote : แนวรบเพื่อไทยคสช. แนวรบบัญชีรายชื่อ
อุบัติแห่งพรรคเพื่อธรรมอันมี นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เป็นหัวหน้า พรรคมีความเด่นชัดอย่างยิ่ง เหมือนกับจะเป็น “พรรคสำรอง”
หากพรรคเพื่อไทยประสบมรสุมมีอันต้องถูกยุบตามกลยุทธ์อันแยบยลก็มี “พรรคเพื่อธรรม” คอยรองรับ
แต่หากยิ่งพิศก็ยิ่งมองเห็น “กลยุทธ์” ที่มากกว่านั้น
เป็นกลยุทธ์ที่พรรคเพื่อไทยจะปรับตัวให้สอดรับกับระบบการเลือกตั้งแบบใหม่ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ที่นำเสนอการเลือกตั้งอย่างที่เรียกกันว่า
“ระบบจัดสรรปันส่วน” ซึ่งคะแนนจากระบบเขตมีผลต่อส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ
ตรงนี้แหละที่ “พรรคสำรอง” จะเข้ามามีบทบาท
พลันที่ประสบเข้ากับระบบการเลือกตั้งแบบใหม่จากรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 เด่นชัดยิ่งว่าพรรคเพื่อไทยกำหนดแนวทางของตนออกมาอย่างไร
ด้านหลักอยู่ที่ ส.ส.ระบบเขต
ด้านหลักก็คือ การตรึงพื้นที่เดิมของพรรคเอาไว้ที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ
จุดอ่อนอย่างที่สุดเป็นเรื่องของ “พรรคประชาชาติ”
ความคิดหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นในพรรคเพื่อไทยก็คือ มีความจำเป็นต้องจัดตั้งพรรคขึ้นมา “สำรอง” เพื่อรองรับและสร้างคะแนนให้กับระบบบัญชีรายชื่อ
เน้นไปยังพื้นที่ภาคกลางอย่างเป็นด้านหลัก
ระดมคนของพรรคเพื่อไทยซึ่งมีเกียรติภูมิเด่นชัดและเก็บเอาคะแนนจากระบบเขตส่งผลสะเทือนไปยัง ส.ส.บัญชีรายชื่อในลักษณะสะสมจากทั่วประเทศ
นอกเหนือจากพรรคเพื่อธรรมแล้วเด่นชัดยิ่งว่าจะมีพรรคจัดตั้งขึ้นในทำนองเดียวกันเพิ่มขึ้นอีก
นี่คืออีกจังหวะก้าวหนึ่งของพรรคเพื่อไทย
ไม่ว่าจะมองจากทางด้านคสช. ไม่ว่าจะมองจากทางด้านพรรคเพื่อไทย ทั้งหมดนี้คือการจัดแนวรบเพื่อการเลือกตั้ง
คสช.มิได้มีพรรคพลังประชารัฐเพียงพรรคเดียว
ตรงกันข้าม ยังแวดล้อมอย่างอบอุ่นด้วยพรรครวมพลังประชาชาติไทย พรรคประชาชนปฏิรูป
พรรคเพื่อไทยก็ย่อมีพรรคเพื่อธรรมเป็นธรรมดา
อุบัติแห่งพรรคเพื่อธรรมอันมี นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เป็นหัวหน้า พรรคมีความเด่นชัดอย่างยิ่ง เหมือนกับจะเป็น “พรรคสำรอง”
หากพรรคเพื่อไทยประสบมรสุมมีอันต้องถูกยุบตามกลยุทธ์อันแยบยลก็มี “พรรคเพื่อธรรม” คอยรองรับ
แต่หากยิ่งพิศก็ยิ่งมองเห็น “กลยุทธ์” ที่มากกว่านั้น
เป็นกลยุทธ์ที่พรรคเพื่อไทยจะปรับตัวให้สอดรับกับระบบการเลือกตั้งแบบใหม่ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ที่นำเสนอการเลือกตั้งอย่างที่เรียกกันว่า
“ระบบจัดสรรปันส่วน” ซึ่งคะแนนจากระบบเขตมีผลต่อส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ
ตรงนี้แหละที่ “พรรคสำรอง” จะเข้ามามีบทบาท
พลันที่ประสบเข้ากับระบบการเลือกตั้งแบบใหม่จากรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 เด่นชัดยิ่งว่าพรรคเพื่อไทยกำหนดแนวทางของตนออกมาอย่างไร
ด้านหลักอยู่ที่ ส.ส.ระบบเขต
ด้านหลักก็คือ การตรึงพื้นที่เดิมของพรรคเอาไว้ที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ
จุดอ่อนอย่างที่สุดเป็นเรื่องของ “พรรคประชาชาติ”
ความคิดหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นในพรรคเพื่อไทยก็คือ มีความจำเป็นต้องจัดตั้งพรรคขึ้นมา “สำรอง” เพื่อรองรับและสร้างคะแนนให้กับระบบบัญชีรายชื่อ
เน้นไปยังพื้นที่ภาคกลางอย่างเป็นด้านหลัก
ระดมคนของพรรคเพื่อไทยซึ่งมีเกียรติภูมิเด่นชัดและเก็บเอาคะแนนจากระบบเขตส่งผลสะเทือนไปยัง ส.ส.บัญชีรายชื่อในลักษณะสะสมจากทั่วประเทศ
นอกเหนือจากพรรคเพื่อธรรมแล้วเด่นชัดยิ่งว่าจะมีพรรคจัดตั้งขึ้นในทำนองเดียวกันเพิ่มขึ้นอีก
นี่คืออีกจังหวะก้าวหนึ่งของพรรคเพื่อไทย
ไม่ว่าจะมองจากทางด้านคสช. ไม่ว่าจะมองจากทางด้านพรรคเพื่อไทย ทั้งหมดนี้คือการจัดแนวรบเพื่อการเลือกตั้ง
คสช.มิได้มีพรรคพลังประชารัฐเพียงพรรคเดียว
ตรงกันข้าม ยังแวดล้อมอย่างอบอุ่นด้วยพรรครวมพลังประชาชาติไทย พรรคประชาชนปฏิรูป
พรรคเพื่อไทยก็ย่อมีพรรคเพื่อธรรมเป็นธรรมดา
No comments:
Post a Comment